Pages

บทความธรรมะ

ทำสิ่งใดบ่อยๆจะกลายเป็นสิ่งนั้น

เมื่อตอนเด็กคุณครูสอนให้เราเขียนหนังสือต้องเขียนแล้วเขียนอีกจนเขียนได้นี้เป็นธรรมชาติการเรียนรู้ของมนุษย์สิ่งใดที่ทำบ่อยๆจะกลายเป็นความเคยชินจากความเคยชินกลายเป็นนิสัยถ้าสังเกตจะเห็นว่านิสัยมีทั้งดีและไม่ดีมาจากการทำบ่อยๆคิดบ่อยๆ หรือพูดบ่อยๆ พ่อแม่จะเตือนเราเสมอให้มั่นทำสิ่งดีๆ จนกลายเป็นนิสัยเปรียบเหมือนเราปลูกต้นไม้ต้องหมั่นรดน้ำ พรวนดิน กำจัดวัชพืช ชีวิตที่ดี  ต้องหมั่นคิดดี หมั่นพูดดี หมั่นทำดี จนกลายเป็นนิสัย

17/12/2560
ปิยเมธี
ฮินดูสถาน

หลัก ประการแห่งความเบิกบานของชีวิต
                                                                                                                                                เรียบเรียงโดย ปิยเมธี 

การดำเนินชีวิตขององค์ทะไลลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณชาวธิเบต และท่านเดสมอนด์ ตูตู ผู้นำทางจิตวิญญาณชาวแอฟริกาใต้ :-
1. จงมีทัศนคติที่ดีหรือมองชีวิตจากมุมที่ต่างออกไป ลองถอยห่างจากมุมที่ตัวเองเคยชินแล้วลองมองในมุมอื่นบ้าง ชีวิตอาจไม่ได้แย่เสมอไป เมื่อเราประสบปัญหาลองมองคนรอบข้างเราอาจมีคนที่แย่กว่าเราอีกมากมาย เราช่างโชคดีเหลือเกิน
2. จงมีความอ่อนน้อมถ่อมตน เราก็แค่มนุษย์คนหนึ่งในเจ็ดพันล้านคน ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรือแตกต่างจากคนอื่นเขา คนที่อ่อนน้อมย่อมเป็นที่รักของผู้คนทั้งหลาย
3. อารมณ์ขันเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชีวิตเบิกบาน อย่าซีเรียสหรือจริงจังกับชีวิตจนตึงเกินไป หัวเราะตัวเองบ้าง อารมณ์ดีทำให้อายุยืน
4. จงเรียนรู้ที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงทั้งในทางที่เราชอบและไม่ชอบ การยอมรับความเป็นจริง เป็นจุดเริ่มต้นในการรับมือกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งดีและร้าย
5. ฝึกเป็นผู้ให้อภัยให้โอกาสผู้อื่นอยู่เสมอ เพราะมันเป็นการปลดล็อคใจจากอดีตอันเร็วร้าย ไม่ใช่การลืมอดีต แต่เป็นการเลือกตอบสนองในทางที่ดีขึ้น 
6. จงขอบคุณสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวคุณในแต่ละวัน ฝึกมองให้เห็นสิ่งดีๆ ตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอน และฝึกขอบคุณจนเป็นนิสัย
7. จงมีความเมตตาต่อผู้คนรอบข้าง มองคนอื่นโดยสายตาแห่งมิตร มีความปรารถนาดีกับทุกคน เมตตาเป็นคุณธรรมที่ขาดไม่ได้ในการที่จะดำเนินชีวิตอย่างมีคุณภาพ
8. จงมีความกรุณาแห่งใจหรือมีความปรารถนาอยากช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของผู้อื่น ความสุขอีกอย่างหนึ่งเกิดขึ้นเพราะการปลดทุกข์ของผู้อื่น
เมื่อเราปฏิบัติได้ตามหลัก ประการนี้ ชีวิตจะมีคุณค่าและมีความสุขในทุกๆ วัน

มี หัวอย่ากลัวจะไม่สำเร็จ+
โดย ปิยเมธี
ชาวอินเดียโบราณเชื่อว่าพระพรหมสร้างโลก สร้างมนุษย์ รวมถึงสร้างความสำเร็จให้แก่มวลมนุษย์ ตามความเชื่อนั้นพระพรหมมี  4หน้าจึงสามารถสร้างโลกสร้างอะไรก็ได้ หัวและหน้าทั้ง ของพระพรหมนั้น หมายถึง             

1.หัวแม่ตีน 
คนที่จะประสบความสำเร็จ ต้องมีหัวแม่เท้าซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเดิน ชีวิตของคนต้องรู้จักเดินไปหาโอกาส ไม่ใช่รอให้โอกาสมาเคาะถึงหน้าประตูบ้าน พยายามแสวงหามองหาหลู่ทางโอกาสในชีวิต ทำอย่างไรงานที่ทำจะดีขึ้นก้าวหน้าขึ้น      

2.หัวนิ้วโป้ง
หัวนิ้วโป้ง ในที่นี้หมายถึงการทำความเคารพ ความอ่อนน้อมถ่อมตน ไปลามาไหว้ ความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นเสน่ห์ทำให้ผู้คนรักใคร่ชอบพอ ไปอยู่ไหนคนจะช่วยเหลือแนะนำเป็นโอกาสให้ได้เรียนรู้พัฒนาตนเองจนประสบความสำเร็จได้อีกทางหนึ่ง

3.หัวสมอง
อยู่ที่ไหน อย่าเกียจคร้าน มีสิ่งใดที่เราจะช่วยคิดช่วยทำได้ จงลงมือลงแรงทำ อย่านิ่งดูดาย เพราะสมองของมนุษย์ยิ่งใช้ยิ่งคม ยิ่งใช้ยิ่งฉลาด        

4.หัวใจ
ทำอะไร ต้องทำด้วยหัวใจ ทำด้วยความเต็มใจเต็มที่ 100% กับสิ่งที่ทำ เรียกว่า ตั้งใจทำจนงานนั้นๆ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี         
เมื่อเราสามารถใช้ได้ทั้ง หัว ก็เป็นเครื่องประกันได้ว่าจะประสบความสำเร็จแน่นอน


สุดมหัศจรรย์! อัฐิหลวงพ่อแช่ม

แปรเปลี่ยนเป็นพระธาตุใส 31 องค์



เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 26 ส.ค.57 ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเรื่องมหัศจรรย์ อัฐิพระราชคุณาธาร หรือหลวงพ่อแช่ม นิสารทันยุ พระเกจิชื่อดัง อดีตเจ้าวาสวัดโปรดเกศเชษฐาราม พระอารามหลวงชั้นตรี ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังพระราชทานเพลิงศพไปเมื่อวันที่ 3 ก.พ.56 และได้เก็บอัฐิไว้ได้แปรเปลี่ยนเป็นพระธาตุขาวใส มีขนาดเท่าปลายเสี้ยวนิ้วก้อย หรือเท่าเมล็ดถั่วแดง จำนวน 31 องค์
พระครูวิสิฐธรรมรส เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ได้ลำดับเรื่องราวให้ฟังว่า พระราชคุณาธาร หรือหลวงพ่อแช่ม เป็นพระอริยะสงฆ์ ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ เป็นพระนักพัฒนา ตื่นตอนตี 3 ลงมากวาดลานวัดทุกวัน มีลูกศิษย์มากมายทั่วประเทศ ได้แต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดโปรดเกศเชษฐาราม ลำดับที่ 11 และได้มรณภาพที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ขณะมีอายุได้ 87 ปีเมื่อปี พ.ศ.2555 จากนั้นได้มีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 3ก.พ.56
พระครูวิสิฐธรรมรส ได้ลำดับเรื่องราวมหัศจรรย์ในอดีต ให้ฟังต่อว่า เวลาประมาณ 21.00 น.ของวันที่ 3 ก.พ.56 ที่ผ่านมาได้ทำพิธีเผาจริงบนเมรุโดยมีลูกศิษย์หลายคนช่วยกันนำร่างของหลวงพ่อแช่มเข้าเตาเผา ส่วนอาตมาก็กลับไปทำธุระในกุฎิ สักพักได้มีลูกศิษย์วิ่งหน้าตาตื่นมาแจ้งว่าศพของหลวงพ่อแช่มไม่ไหม้ไฟ นิมนต์ให้อาตมาไปทำพิธีบอกกล่าวหลวงพ่อหน่อย อาตมาเดินกลับไปดูพบว่าร่างของพ่อแช่มไหม้ไฟไปไม่มาก จึงได้จุดธูป จุดเทียน บอกกล่าวไม่ต้องเป็นห่วงจะช่วยพัฒนาวัดหมือนกับที่หลวงพ่อเคยทำไว้ในขณะที่มีชีวิตอยู่
เป็นที่น่ามหัศจรรย์เมื่อเห็นดวงไฟสีเขียว และสีแดงลอยม้วนขึ้นไปพร้อมกับร่างของหลวงพ่อที่ไหม้สลายออกไป มีลูกศิษย์ของหลวงพ่อหลายคนเอากล้องมาถ่ายรูปเก็บไว้ แต่ก็แปลก ภาพที่ถ่ายออกมาไฟล์เสียไปเกือบหมด หลังจากนั้นได้ทำพิธีแยกระดูกหรือแปรธาตุทำพิธี 3 หาบตามพิธีหลวง ส่วนเศษอัฐิชิ้นเล็กๆ ได้มีนางโฉมญา กรทอง อายุ 55 ปี เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดและดูแลวิหารพระนอนในวัด และลูกศิษย์ เก็บเอาไปบูชาคนละเล็กละน้อย

ต่อมากลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเศษอัฐิของหลวงพ่อแช่มที่ นางโฉมญา กรทอง เก็บห่อบูชาไว้ในวิหารพระนอนได้เกิดมหัศจรรย์ ได้แปรเปลี่ยนแตกเป็นพระธาตุสีขาวใสขนาดปลายเสี้ยวนิ้วก้อยนับได้จำนวน 31 องค์ เป็นที่น่าขื่นชมและดีใจ ของลูกศิษย์ จำนวนมากบางส่วน ได้แบ่งปันกันไปบูชา และบางส่วนได้เก็บใสไว้ในโกศแก้ว ไว้ในวิหารพระนอน ให้ประชาชนทั่วไปที่เคารพนับถือมากราบไหว้เป้นสิริมงคลและขอพึ่งบารมี อย่างไรก็ตามเมื่อข่าวอัฐิของพระราชคุณาธาร หรือหลวงพ่อแช่ม นิสารทันยุ พระเกจิชื่อดัง แปรเปลี่ยนเป็นพระธาตุ ได้แพร่สะพัดออกไปทำให้ชาวบ้านแห่กันมาขอชมและกราบไหว้บูชาเพื่อเป็นสิริมงคลกันจำนวนมาก

No comments:

Post a Comment